นิยายที่ได้รับความนิยมในอดีตและปัจจุบัน
 |
ในยุคสมัยหนันเหลียง เป่ยเหว่ยยกทัพลงใต้ หลินเซี่ยพาหลินซูลูกชายวัยสิบเจ็ดปีนำกองกำลังชื่อเยี่ยนเจ็ดหมื่นนายออกศึก สุดท้ายกองกำลังชื่อเยี่ยนเพิ่งได้รับชัยชนะ แต่กลับถูกคนปองร้าย จนต้องตายอย่างอนาถที่หุบเขาเหมยหลิง หลินซูได้รับความช่วยเหลือจากพรรคพวกจนเอาตัวรอดเอาไว้ได้และจากความช่วยเหลือของหอหลางหยา หลินซูได้ก่อตั้งเจียงจั่วเหมิงขึ้นมา สิบสองปีต่อมา หลินซูกลับมาในฐานะ “เหมยฉางซู” เจ้าลัทธิ คอยแอบให้ความช่วยเหลือพระโอรส เพราะด้วยความที่อุปนิสัยตรงไปตรงมาจึงไม่เป็นที่โปรดปรานของอู่ตี้ ทั้งยังต้องใช้สุขภาพที่อ่อนแอเผชิญอุปสรรคความยากลำบากเพื่อกำจัดขุนนางชั่ว และใช้ชีวิตในวาระสุดท้ายล้างมลทินให้กองทัพชื่อเยียนเจ็ดหมื่นนายที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์ แต่กลับถูกลอบสังหารสิ้น เรื่องนี้ทำเป็นซีรี่ย์ หลายคนบอกว่าสนุก แต่มีผู้อ่านหลายท่านกลับไม่ชอบนิยายเรื่องนี้ ที่นำมาลงก็เกาะกระแสเพราะซีรี่ย์ดังจึงอาจมีคนสนใจอ่านนิยายครับ |
 |
“ฉู่เฉียว” จารชนหญิงผู้เก่งกล้า ที่โดดเด่นมากความสามารถ นางเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรอง(ลับ)หน่วยที่ 11 ที่อยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจสำคัญ กลับทะลุมิติสู่ยุคจีนโบราณ กลายเป็นดรุณีทาสอายุเจ็ดขวบ สถานที่แห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยเส้นคั้นชีวิต "มนุษย์ที่กลืนกินชีวิตกันเอง"ไร้ความคุณธรรมค้ำจุน แบ่งราชนิกูล ชนชั้น - ทาส โดยมีเหล่าบรุษแห่งยุคนั้น เป็นผู้กำหนด ขีดเส้นเป็นเส้นตาย นางอยู่ในช่วงเวลา ของกลุ่มคนที่ยังคง "ยึดติด" กับสิ่งที่บรรพบุรุษเป็นผู้สร้างแต่มองข้ามพลังความแค้นของสิ่งที่ถูกกดดันอยู่ใต้ฝ่าเท้า หนึ่งเสียงที่กำลังเรียกร้องอยู่นั้น คือ "ฉู่เฉียว" ที่อยู่ในร่างของทาสเด็กวัย 8 ขวบ โดยมีคำสั้น ๆ ที่วิ่งพล่านอยู่ในโสตสมองส่วนลึกว่า "ต้องรอด"ท่ามกลางกลุ่มเด็กน้อยไร้เดียงสา ท่ามกลางความกดขี่ข่มเหงของบุคคลชั้นสูงท่ามกลางความสูญเสียพี่น้องที่ร่วมชะตากรรมท่ามกลางความอำนาจที่แลกด้วยหัวใจอำมหิต ความเจ็บปวด บุญคุณ และ ความแค้น นางจะใช้ชีวิตอย่างไร..... |
 |
หนุ่มไต้หวัน "ซ่งหมิงเฟิง" มีครอบครัวขยายอยู่เมืองไถจง พ่อเป็นลูกคนที่สามและมีพี่ชายสองน้องสาวสอง ทำให้มีลูกพี่ลูกน้องเยอะแยะ แต่มีเพียงหมิงเฟิงที่มีพลังเนตรอินหยางทำให้เห็นเทพเป็นพวกดึงดูดปีศาจที่อยากกิน หมิงเฟิงจึงต้องเป็นทายาทวิชาสำนักเหมาซานในตระกูลอย่างหนักหน่วง เมื่อโตขึ้นพ่อก็ส่งไปเรียนในระดับอินเตอร์ที่หน่วยบรรเทาภัยพิบัติกาชาดที่ตั้งอยู่ที่ปราสาทในยุโรป หน่วยงานนี้ดูแลกิจการโลกวิญญาณ แต่วิชาพรตกำลังตกต่ำ ทำให้หมิงเฟิงต้องหาวิชาลงแทบแย่ เพื่อนสนิทระหว่างเรียนคือหนุ่มสวย คุระฮาชิ โอโตนาชิ ที่เป็นทายาทศาลเจ้าที่ลงเรียนวิชาศาสตร์แห่งยันต์ด้วยกัน เรียนไป 5 ปี อาจารย์ สมิธ ที่แนะแนวไม่รู้จะให้หมิงเฟิงทำงานอะไร ที่มีตำแหน่งอย่างบรรณารักษ์ก็ไม่อยากเป็น เลยส่งหมิงเฟิงไปเป็นผู้ช่วยจอมคาถา เจินฉีหลิน จุดเด่นของเรื่องนี้คือเป็นแฟนตาซีจีนที่ฮาตลอด โครงเรื่องน่าจะถือว่าแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกถึงถึงเล่มสามเน้นความฮามากมาย |
 |
ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! "ยิ่วหยาง"เด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทันด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ พระเอกไปฝึกกับตระกูลหนึ่งซึ่งเป็น 4 ตระกูลหลักในโลกที่ sage emperor อยู่แล้ว มีพลังเลยระดับตำนานไปแล้ว แต่อยู่ในขั้น peak ของ ระดับขอบเขตชะตาสวรรค์, the heavenly fate realm ซึ่งสามารถสร้าง วิญญานแห่งชะตา, fate soul ไว้ในวิหาร พระเอก ได้รวมกับวิญญานสัตว์อสูรตัวที่ 3 ที่ได้การเติบโตระดับพระเจ้า และมีเชื้อสายเทพมังกร และกลายพันธุ์ |
 |
"ชินฮวัง" เป็นบุตรชายคนโตของ ชินคว็อนย็อง ที่ไม่สามารถฝึกวิชาหมัดของตระกูลได้เพราะร่างกายไม่มีพละกำลังมากพอที่จะฝึกวิชาแนวทางแข็งกร้าวร้อนแรง เมื่อชินฮวังอายุสิบห้าจึงให้น้องชาย ชินวอน สืบทอดแล้วตนเองออกเดินทางจากหุบเขาชังแบกในโชซอน โดยจะไม่กลับจนกว่าจะพบมรรคาบู๊ของตนเอง ชินฮวังพบว่าไม่สามารถเรียนกำลังภายในจากสำนักได้เนื่องจากจะสงวนเฉพาะในตระกูล จึงศึกษาวิชากำลังภายในจากชาวยุทธ์ชั้นล่าง ตื๊อนักพรตลัทธิเต๋าที่มีแนวทางหยุ่นเยียบแผ่วพลิ้วจนได้เรียนวิชาบ้าง แต่ก็รู้สึกว่ายังมีอะไรขาดอยู่ ชินฮวังใช้เวลาสิบปีเดินทางจากอุนนัม ช็อนชุก ซอจัง ถึงเชิงเขาว็อน มณฑลชินกัง ขออาศัยในหมู่บ้านทัมนี ปีนยอดเขาเงาจันทร์และฝึกวิชากำลังภายในดวงจิตเงาจันทราที่ปู่คิดค้นขึ้นแต่ไม่ได้ฝึกจนเข้าสู่ขอบเขตแรกธรรมชาติ สร้างวิชากระบี่ที่เน้นความหยุ่นเยียบคือคมกระบี่ใต้เงาจันทร์ |
 |
เมื่อแพทย์สาวผู้เก่งกาจต้องย้อนเวลากลับไปเป็นกระต่ายน้อยขี้โรคในยุคอดีต แม้ว่าจะมีวิชาแพทย์อันล้ำเลิศติดตัวอยู่แต่ก็เหมือนจะสูญเปล่า เพราะไม่อาจรักษาโรคของตนเองได้ ซ้ำยังถูกสามีทอดทิ้งให้ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากเดียวดาย แต่ถึงกระนั้นสวรรค์ก็ยังซ้ำเดิมนาง ให้มีลูกฝาแฝดติดท้องมาด้วยอีก ชีวิตที่เดิมที่ลำบากอยู่แล้ว ยิ่งขัดสนขึ้นกว่าเดิม แต่ก็เอาเถอะ…มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน วิชาแพทย์ของนางจะต้องสร้างประวัติการณ์ พลิกชีวิตใหม่ให้นางได้อย่างแน่นอน! ใครๆก็ว่าสนุก"เยิ่งอ่านยิ่งสนุก เล่มแรกเรามีความรู้สึกรำคาญเสิ่นจงชิ่ง มีความรู้สึกอัดอั้นตันใจ เพราะนางมีเมียมาก และนางเกลียดนางเอก ส่วนนางเอกก็วางแผนซ่อนลูกจากพ่อของเขา บางครั้งก็หงุดหงิดนะ แต่เราชอบตอนที่เจี่ยนโยวไปรักษาผู้ป่วยมาก เพราะเราได้ความรู้จากการรักษาโรคของนาง ชอบแนวคิดหลายอย่างของนางที่เฉียบขาด ส่วนอาชิ่งเริ่มจะมีบทบาทชัดเจนมากขึ้นในเล่มสอง ได้รู้จักนิสัยเถรตรง ไม่ถนัดวางแผนทางการเมือง แต่เป็นพวกใช้กำปั้นตัดสินปัญหา" |
 |
หมู่บ้านสามแซ่มีสามตระกูลที่ใช้วิชาลักขโมยและวิชาเหินบินสะสมสมบัติของวิเศษที่ช่วยกันขโมยมาในคลัง ที่ว่าสามตระกูลคือตระกูลหลิวที่นำโดย หลิวพานอาน ตระกูลซ่านกวนที่นำโดยท่านย่า ซ่านกวนตวอเซวี่ย และ ตระกูลหูที่ หูซิงเย่ ประกาศล้างมือไม่สอนวิชาให้คนในครอบครัว แต่รับ ฉู่ฮั่น เด็กขอทานขาเป๋จากในเมืองหลวงเป็นศิษย์ ตอนฉู่ฮั่นอายุสิบเอ็ดสิบสอง หมู่บ้านสามแซ่ได้ให้รุ่นใหม่ขโมยของแข่งกันเพื่อตำแหน่งเจ้าผู้เหินบิน ถึงผู้ชนะคือ ซ่างกวนอู๋เอียน หลานหญิงของตระกูลซ่านกวน แต่ฉู่ฮั่นที่ไม่ได้ร่วมกลับทำได้ดีกว่าโดยขโมยหนึ่งในสามวิเศษสุดยอดคือตามังกรแก้วผลึกม่วงที่เกี่ยวพันกับการทำนายความรุ่งเรืองตำต่ำของแผ่นดินมาจากหมอดูตาบอด ถงอิ๋น จอมโจรลักแผ่นดิน มีความแปลกใหม่ตั้งแต่พล็อตเรื่อง และการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างลื่นไหล ทำให้เวลาอ่านไม่อึดอัด และชวนติดตามกับสถานการณ์ของตัวเอกอยู่ไม่มากก็น้อย |
 |
"ซูเพียนจื่อ"ย้อนเวลาไปอยู่ในโลกผู้ฝึกตน แบ่งเขตแดนธรรมะ-อธรรม ความน่าสนใจมันเริ่มตั้งแต่.. คนอื่นย้อนไปอยู่ในตระกูลดีเลิศ หรือมีเหตุให้รบรากับแม่หลัวและเหล่าตัวร้ายในรูปแบบต่าง ๆ อย่างมันมือ แต่เธอ... ย้อนมาอยู่ในตระกูลซู 18 มงกุฎ มีชื่อเสียง(เลว)กระฉ่อนหล้า เพราะถนัดเรื่องปลอม-แหล-แถ-ลวง ใครเห็นก็กลัวกันหมด แถมยังอยู่ในฝ่ายอธรรมซะด้วยนะ บันเทิงสิทีนี้ ยังก่อน ยังไม่พอ... ถ้าหากคิดจะเลื่อนขั้นผ่านการฝึกฝน ทุกคนในสำนักต้องหลอกลวงคนให้ได้ตามข้อกำหนดนั้น ๆ และเคราะห์กรรมนี้มาตกอยู่ที่นางเอกสายใสของคุณชาย ในฐานะผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลซู ซูเพียนจื่อจึงมาพร้อมกับความฮา แรกเลยก็ฝึกวิชาไม่ได้ เพราะถูกผนึกความสามารถไว้ มิพ้นโดนคนในตระกูล |
 |
ตำนานของบอร์น มีคนใช้ชื่อเจสัน บอร์นในปฏิบัติการลอบสังหารในตะวันออก ซีไอเอล่อเจสัน บอร์นตัวจริงออกมาเพื่อให้ตามล่า เจสัน บอร์นตัวปลอม เดวิด เว็บบ์ถูกบีบบังคับสู่การเป็นมือสังหารระดับพระกาฬเหมือนการคืนสู่วิญญาณเพชฌฆาต ถ้าทำไม่ได้เขาจะต้องตาย แล้วการตามล่าอย่างดุเดือดจึงเริ่มต้น The Bourne Ultimatum บอร์นใช้ชีวิตในฐานะชายที่ไร้ชาติหรืออดีต เพราะเคยได้รับการฝึกอย่างหนักซึ่งเขาจำไม่ได้ โดยคนที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใคร บอร์นจึงกลายเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นอาวุธร้าย และกลายเป็นเป้าหมายที่ซีไอเอตามร่องรอยได้ยากที่สุด นับแต่ถูกช่วยขึ้นมาจากน้ำในทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน นอกชายฝั่งอิตาลีเมื่อหลายปีก่อน บอร์นได้ออกตามหาความจริงว่าเขาเป็นใคร หลังจากมาเรีย คนรักของเขา ตายไปเพราะกระสุนนัดหนึ่งจากมือสังหาร กูชื่อเจสัน บอร์น ภารกิจครั้งใหม่ของ"เจสัน บอร์น"มือสังหารความจำเสื่อม ที่ต้องอยู่ในตัวตนแท้จริง"เดวิด บอร์น"อาจารในมหาวิทยาลัย ใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกากับลูกและเมียแต่โชคชะตากลับนำพาเขาให้ใช้สัญชาตญาณเดิม เมื่อถูกตามล่าจากกลุ่มคนอันตราย และไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่งานนี้ไม่ง่ายอย่างที่คาด เพราะมีใครอีกคนที่แค้นเขามากพอที่จะฆ่าเขาให้ตาย |
 |
"อวิ๋นลั่วเฟิง" นักเรียนแพทย์หัวกะทิได้ย้อนอดีตกลับไปอยู่ในร่างของคุณหนูใหญ่สุดสำรวย สตรีผู้มีชื่อฉาวคาวกระฉ่อนว่าเป็นเพียงสวะของสกุล ซ้ำร้ายยังหน้าหนาไปฉุดหนุ่มรูปงามทั้งที่ตนมีคู่หมั้นเป็นถึงองค์รัชทายาท เรื่องน่าอับอายนี้เป็นเหตุให้นางโดนถอนหมั้นจนตัดสินใจปลิดชีวิตตนไปด้วยความเจ็บปวด ครั้นเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง คุณหนูใหญ่แห่งสกุลอวิ๋นก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ฉายาคุณหนูสวะนั้นหรือเป็นเพียงคำลวง แพทย์หญิงอัจฉริยะต่างหากที่เป็นของจริง! ไหนจะมี ‘ชายปริศนา’ ที่โผล่มาบอกให้นาง ‘รับผิดชอบ’ เขา ทั้งยังคอยติดตามอยู่ข้างกายไม่ห่างพร้อมประกาศว่า “ใครหน้าไหนที่จะมาทำร้ายสตรีของข้าก็ดาหน้ากันเข้ามา แต่จงจำไว้ว่ามันจะไม่มีวันได้มีชีวิตกลับไป!” |